
เจ้าคุณเบอร์ลิน : เตือนสติสตรีผู้ถือหอกให้พุทธอิสระ.
..........
- วันนี้วันหยุด ผมจะนำไปเอาความรู้เกี่ยวกับเรื่อง อาบัติพระมาเสริมกันอีกรอบครับ.
- ดีครับ รู้เรื่องแบบนี้มากๆ เบื้องต้นจะได้ไว้ป้องกัน "พระเทียม หลอกต้มเอา".
- พร้อมทั้งจะนำไปจับตา
"สตรีที่หลงเล่นกับไฟนรก มองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว
หลงไปเดินตาม และคอยถือด้ามหอกให้พุทธอิสระ มาทิ่งแทงคณะสงฆ์ไม่หยุดหย่อน" กันครับ
- ใครเป็นญาติเป็นเพื่อน จะได้ช่วยกันดึงออกมาชะ.
- งวดนี้ จะเตือนกันมาดี ๆ นิ่ม ๆ ก่อนว่า
"วงการพระทั้งสองนิกาย เขารู้เท่ากันแล้วนะ"
- ข่าวเรื่องสตรีนี้ ต้องถามพุทธอิสระว่าใช่หรือไม่ครับ..
......
อาบัติ (อีกครั้ง)
...........
เบื้องต้น ขอเตือนด้วยหวังดีครับ
เตือน 1
- ก่อนอื่นต้องขอเตือนไปยังพวกเปรียญหัวหมอ ที่รับใช้พุทธอิสระสองสามคน ว่า..
- พวกท่านกำลังจะทำผิดใหญ่หลวง จะถูกตราหน้าทั้งตระกูลว่า
เป็นคนเนรคุณพระศาสนา เนรคุณสำนัก เนรคุณครูอาจารย์ ที่เคยสั่งสอนวิชาให้มา.
- หันกลับไปดูหน่อยซิครับว่า หลวงพ่อเรา สำนักเรา ถูก พุทธอิสระ มันข่มเหง ข่มขู่ ทำให้เดือดร้อนอย่างไรบ้าง.
-ขอให้ถอยออกมาเถอะครับ เพราะผลกรรมที่จะตามมามันมากเหลือเกิน.
- พวกท่านก็ไม่ใช่คนโง่นะครับ
อย่าหลงเดินทางผิดอีกเลย ผมชี้ทางให้แล้วนะครับ.
......
เตือน 2 ก็คือ...
- สตรีที่คอยจับหอกให้ พุทธอิสระ เพื่อนำมาทิ่มแทงใส่คณะสงฆ์นั้น.
- เจ้าคุณเบอร์ลิน ขอเตือนว่า..
- ขอให้กลับตัวกลับใจเสียใหม่ นะครับ.
- ขอสั้น ๆ ว่า ท่านจะได้ไม่ตายแบบอนาถา ดังตัวอย่างที่เห็น.
- เมื่อเลือดตกต้องแผ่นดิน วันเผาจะหาพระไปสวดศพให้ได้ครบ 4 รูป ก็ยังไม่มี.
- ดูสตรีที่เคยสร้างเวรสร้างกรรมให้กับคณะสงฆ์คนก่อน.
- ก็เคยมีเคยเห็นกันมาแล้ว เป็น "ภูตปุพพัง" ยังไม่จดจำกันอีกหรอครับ.
- เรื่องเคยมีมาแล้ว พอตายลง จะหาพระทั้งประเทศ ไปชักผ้าบังสุกุลหน้าหีบศพ ก็แทบจะไม่มี.
- เวลามีชีวิตอยู่ วางตัวสูงส่ง เที่ยวข่มขู่กดหัวพระไปทั่ว เวลาตาย กลับตายแบบอนาถา.
- จึงขอเตือนว่า ท่านจะเอาอย่างงั้นใช่ไหม ครับ สตรีที่จับหอกพุทธอิสระอยู่ขณะนี้น่ะ.
- เลิกเสียทีเถอะครับ เพราะหากจับดีก็ดีไป.
- เกิดจับไม่ดี หอกพุทธอิสระหักขึ้นมาก่อนงานชั่วสำเร็จละก็จะยุ่ง
เดี๋ยวจะหาว่าเจ้าคุณเบอร์ลินไม่เตือน.
- ทุกวันนี้ พระสงฆ์องคเจ้าทั้งสังฆมณฑล ท่านรู้กันหมดนั่นแหละ ทั้งพระธรรมยุติและมหานิกาย นะแหละครับ.
- ท่านจะพูดหรือไม่พูดก็อีกเรื่อง.
- อย่าหลอก อย่าหลงตัวเองว่า ไม่มีใครรู้ ต่อไปอีกเลย.
- คงเตือนได้เท่านี้แหละครับ หากท่านจะยังมุ่ง "เข้าพวก"ก่ออนันตริยกรรม ก็เรื่องของท่าน.
- นี่อีกรายที่ผมได้ชี้ทางสว่างให้เดินแล้วนะครับ.
- ใครไม่ใช่ ใครไม่เกี่ยว ก็ไม่ต้องร้อนตัวนะครับ.
....
เข้าเรื่องอาบัติ
- ก่อนอื่น อันผมเจ้าคุณเบอร์ลินนั้น แม้ไม่ได้เป็นเปรียญสูง อะไร.
- แต่ถือว่าโชคดีในชีวิต ที่เกิดมาแล้ว มีบูรพาจารย์ดี ท่านสอนสั่งให้รู้ผิดชอบชั่วดี.
- ให้ผมว่า รู้อะไรเป็นประโยชน์ ไม่เป็นประโยชน์ อะไรเป็นคุณอะไรเป็นโทษ ต่อพระศาสนา.
- ที่สำคัญจิตใจผมไม่คิดชั่วครับ.
......
- วันก่อนผม เห็นพุทธอิสระ ยกวินัยมาโต้ เจ้าคุณเบอร์ลิน
เรื่อง "ฟื้นอธิกรณ์"
- ให้รู้ว่า ...
- ไอ้ที่ยกมาพูดนั้น ไม่ใช่ภูมินักธรรมชั้นเอก อย่างพุทธอิสระแน่.
- เห็นจะเป็นภูมิเปรียญเอก จำพวกที่เรียกว่า
พวกเปรียญผีตีนโรงตีนศาล จับยัดใส่ปากให้พุทธอิสระพูดเสียมากกว่า.
- แกคงกำลังมึนพระวินัยที่เจ้าคุณเบอร์ลินสอนไปหลายดอก.
- จึงหาวิธีแก้อยู่พักหนึ่ง พอหูตาเพิ่งสว่าง จึงโต้แบบแก้เกี้ยว.
- จึงไปยกเอาคำอธิบายพระวินัยที่ชาวบ้านเขา ไม่รู้.
- เอามาหลอกตีกิน โดยยก "บทภาชนีย์" แห่งพระวินัยมาอ้างส่งเดช.
- ซึ่งก็คงหลอกได้แค่สาวกในสำนักพุทธอิสระเท่านั้นแหละครับ.
- คงไปหลอกชาวพุทธที่มีใจเป็นธรรม ไม่ได้หรอกครับ
- โดยเฉพาะศิษย์ในโพสต์ "เจ้าคุณเบอร์ลิน" เพราะวันนี้ เขารู้ทันกันหมดแล้ว.
.......
- เมื่อยก"บทภาชนีย์" มาแล้ว.
- ทำไมไม่ยกบท "อุกเขปนีย์" มาด้วยครับ.
- หรือกล้าๆ กลัวๆ ถ้างั้น เจ้าคุณเบอร์ลิน จะสอนให้จบหลักสูตรไปเลย
เผื่อจะได้หายโง่บ้าง.
- ที่จริง พุทธอิสระ แกน่าจะสอนชาวพุทธให้รู้
"อุกเขปนียกรรม" คือ การขับไล่พระที่สร้างความร้าวฉานให้คณะสงฆ์ นะครับ.
- ซึ่งเป็นหลักใหญ่ มากกว่าจะไปหยิบยกข้อปลีกย่อยอย่าง "บทภาชนีย์" มาอธิบาย.
- หรือเกรงว่า กรรมมันจะเข้าตัว จึงไม่ยอมแจกแจง เกรงจะทำให้สาวกได้หูตาสว่าง หนีไปหมด.
- ว่าไปแล้ว ที่จริง คนอย่างพุทธอิสระ นั้น.
- ในเมื่อไม่ถือพระวินัยแล้ว ก็ไม่ควรเที่ยวยกพระวินัยของพระพุทธองค์ มาอ้างอะไรนะครับ.
- เพราะเป็นของสูง ของประเสริฐนำลงมาเกลือกกลั้วชีวิตสกปรกของพุทธอิสระ ทำไมครับ.
- เพราะถ้าพุทธอิสระ ถือพระวินัยจริง แกก็คงไม่เที่ยวเดินนำม๊อบการเมืองตามถนนเช่นนั้นหรอก.
- อย่างพุทธอิสระนี่ ผมว่าเป็นได้ ก็แค่พระกุ๊ยเฝ้ากรวยอยู่ข้างถนน.
- ที่เที่ยวอันธพาลข่มขู่ "ปักกตัตตะภิกษุ" ผู้มีศีลเป็นที่รัก ที่เขาไม่ถือสาหาความอะไรเท่านั้นแหละ.
- แต่วิธีอันธพาลนี้ มาใช้ข่มขู่เจ้าคุณเบอร์ลินไม่ได้ผลนะครับ
- เพราะเลือดครูบาอาจารย์ ในตัวผมมันเข้มข้น เกินพิกัดครับ.
- วันนึ้ ผมจะสอน เรื่อง "บทภาชนีย์" ให้ท่านโพธิสัตว์จอมลวงโลกสักวัน เพื่อหูตาจะได้สว่างขึ้นบ้าง.
- ชาวพุทธก็จะได้ความรู้ไปด้วย.
................
ค่อย ๆ อ่านนะครับ
- ที่จริง "บทภาชนีย์" ก็คือคำอธิบายข้อปีกย่อยประกอบพระวินัยข้อนั้นๆ เท่านั้นเอง.
- แต่พุทธอิสระแกให้เล่ห์ เอามาตบตา
- ทำทียกมาพูดให้ดูเป็นสิ่งใหญ่โต โดยไม่ยอมยกหลักใหญ่ๆ ของการวินิจฉัยพระวินัยมาด้วย.
- อันว่า อธิกรณ์ที่ตัดสินไปแล้ว จะรื้อฟื้นได้ ไม่ได้นั้น.
- หลักสำคัญ คือ จะต้องดูว่า ใครเป็นคนรื้อ คนรื้อมีอำนาจหน้าที่ในการรื้อหรือเปล่า.
- ตรงนี้แหละครับที่ พุทธอิสระ แกเจตนาแถออกไป เพราะเกรงจะเข้าเนื้อตัวเอง.
- กรณีนี้ ต้องยึดหลักใหญ่ๆ 3 หลัก คือ
1. อธิกรณ์
2. นานาสังวาส
3. สมานสังสวาส.
.............
อธิบายประกอบได้ว่า
1. เรื่องนี้เป็นอธิกรณ์ ชื่อ "อาปัตตาธิกรณ์" คือ ฟ้องร้องกันว่า เป็นอาบัติ ไม่เป็นอาบัติ เป็นอาบัติหนัก อาบัติเบา ฯลฯ.
2. เมื่อฟ้องร้อง นำมาสู่การกสงฆ์ผู้วินิจฉัยคดี จนหาข้อยุติได้แล้ว เสร็จสิ้นไปแล้ว ตามกฏนิคหกรรรม.
- แต่เมื่อมีพวกหัวหมอ ไม่ย่อมรับการวินิจฉัย จากนั้น
- มันจึงกลายเป็น "วิวาทาธิกรณ์" คือ ทะเลาะวิวาทกันว่า ถูกธรรมถูกวินัย หรือ ไม่ถูกธรรมถูกวินัย ใครดีกว่าใคร ใครเคร่งกว่าใคร หรือใครพระของใคร.
- ต่างฝ่ายต่างแสวงหาพรรคพวกถือห่างกันโพนทะนาใหญ่โตขึ้น ฆารวาสศีล 5 ผสมโรงอีก.
3. เมื่อกลายเป็นเรื่อง "วิวาทาธิกรณ์" ทะเลาะวิวาทกันและกัน.
- เพื่อไม่ให้เรื่องลุกลามบานปลายขยายวงออกไป สร้างความเสียหายให้สงฆ์หมู่ใหญ่.
- พระพุทธเจ้าจึงทรงจำกัดวงตัดสินให้อยู่ใน "สมานสังสวาส" คือ กำจัดวงให้อยู่ในการติดสินของภิกษุสังวาสเดียวกัน ตัดสินกันเอง.
- ส่วนภิกษุ "นานาสังวาส" (ต่างสังวาส) ห้ามไม่ให้เข้ามายุ่ง.
- เพราะถ้ามายุ่ง วงทะเลาะวิวาทก็จะขายกว้างออกไป ทำให้พระศาสนาวุ่นวายมากขึ้น ไม่เป็นผลดี.
- ชัดมัยครับ.
.........
- ทีนี้ ก็ต้องย้อนถาม ละว่า รู้หรือยัง "พุทธอิสระ" และ "มือที่จับหอกพุทธอิสระ" ว่า .....
พระพุทธเจ้าทรงประเสริฐสูงส่งแค่ไหน เพียงไร.
- พวกท่าน ก็อย่าเที่ยวยกเอาปัญญาพวกเปรียญผีตีนโรงตีนศาล พวกเนรคุณแม้แต่สำนักเรีนตนเองมารับใช้อยู่เลย.
- ทั้งยังมาแอบอ้างว่า เป็นปัญญาตนอีก ส่ออกุศลเจตนาแล้ว
- แบบทำมันไม่สุดสิ้นกระบวนความ ขยักขย่อนแบบเล่ห์
- พฤติกรรมตีกิน แบบนักการเมืองที่ทำเป็นอาจิณนี้.
- ผมว่าแทนที่จะเป็นพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะผมว่าจะเป็นได้ก็แค่สนัขจิ้งจอกจอมเล่ห์เลี่ยมเท่านั้นแหละครับ.
- เลิกหลงตนเสียทีนะครับ มาอยู่กับความจริงสักทีเถอะ อายุคนเรามันก็ไม่เกิน 100 ปี นะครับ.
- ที่จริง ชาวพุทธ เราควรทราบว่า
- คนอย่างพุทธอิสระ ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เล่ห์เหลี่ยม ฉ้อฉล ประหนึ่งสนัขจิ้งจอก นี้.
- ทั้งเป็นที่เอือมระอาแก่หมู่คณะนั้น.
- จำพวกนี้ พระพุทธเจ้าทรงให้ทำ "อุกเขปนียกรรม" คือ ทรงให้ขับไล่เสียจากหมู่คณะครับ.
- เพราะอยู่ไปก็รังแต่จะสร้างความร้าวฉานให้คณะสงฆ์.
...........
สรูปว่า
- ถ้าพุทธอิสระ มาอ่านเจอโพสต์นี้ของผมด้วยละก็
- ขอให้รีบอพยพนำหมู่พวก ของท่านออกไปจาก คณะสงฆ์ไทยไปเร็ว ๆ เสียเถอะครับ.
- ผมว่าอยู่ไปนานวัน ก็ล่อนจ้อนขึ้นทุกวัน ไม่อายคน ก็ให้อายหมามันบ้างนะครับ.
(พระด้วยกันก็พูดตรง ๆ แบบนี้แหละครับ)
- ผมจะแถมกลุ่มกว๊นพวกอุตริสอนบาลีสังฆราชเช้าเย็นนี้ให้ท่านไปด้วย จะได้ขึ้นสวรรค์กันเร็ว ๆ ไงครับ.
- ถึงวันนั้นจริง ๆ ผมว่าแผ่นดินสังฆมณฑลนี้ คงจะสูงขึ้น เบาขึ้นมหาศาลเลยที่เดียว.
........
- วันนี้ ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วนะครับ.
- อ่านแล้วก็จำไว้ครับ จดไว้กันลืมก็ดี หาอ่านยากนะครับแบบนี้.
- เรื่องอาบัตินี้ มาถึงตรงนี้ คิดว่าน่าจะครอบคลุมหมดแล้วละครับ.
- แต่ถ้าหาก พุทธอิสระ แกจะยังแถกแถไปได้อีก ผมว่าแกน่าจะถือนิกายของแกเองแล้วละครับ.
โชคดีมีชัยทุกท่านครับ
เจ้าคุณเบอร์ลิน
27.02.2016